March 29, 2024
น้ำมันเบรค

น้ำมันเบรค เรื่องสำคัญที่หลายคนมองข้ามอาจทำให้เกิดอันตรายได้

บทความข่าวรถยนต์วันนี้สำหรับผู้ใช้รถหรือ ขับขี่รถยนต์ น้ำมันเบรค ถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญอันดับต้นๆ ของการบำรุงรักษา รวมถึงมักจะเป็นสิ่งที่ผู้ใช้รถมักจะลืมดูแล ซึ่งหน้าที่ของมันคือช่วยเป็นตัวกลางในการหยุด/ชะลอล้อรถยนต์ทั้ง 4 ล้อ ให้เป็นไปตามแรงกดเบรกของของผู้ขับ

นอกจากนี้ยังเป็นสิ่งสำคัญในการหล่อลื่นของระบบเบรกของรถยนต์เช่น แม่ปั๊มเบรคและ ลูกปั๊มเบรค ช่วยทำให้สิ่งเหล่านี้ทำงานได้ลื่นขึ้น ลดการสึกหรอ การรั่ว อันเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดเบรกแตก ซึ่งอาเป็นอันตรายต่อตนเองหรือ ผู้ร่วมใช้รถใช้ถนนอีกด้วยเราจะรู้ได้อย่างไรว่าควรเปลี่ยน น้ำมันเบรค แล้ว

แน่นอนว่าเราสามารถตรวจเช็คตามรอบการเปลี่ยนได้จากสมุดคู่มือการใช้รถที่ติดมากับรถ แต่โดยปกติแล้วเรามักจะเปลี่ยนถ่ายปีละครั้งหรือ ประมาณทุกๆ 20,000 กิโลเมตร ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการใช้รถยนต์ของแต่ละบุคคลว่าใช้รถหนักแค่ไหน การบรรทุกของเยอะ รวมถึงสภาพอากาศด้วย

น้ำมันเบรค อีกหนึ่งสิ่งที่ควรมั่นเช็ค

น้ำมันเบรค

เราสามารถสังเกตได้จากสีของน้ำมันว่ามีสีเข้มหรือไม่ หากว่ามีสีเข้มก็แปลว่าเริ่มเสื่อมประสิทธิภาพแล้ว แต่ในปัจจุบันได้มีเครื่องมือวัดคุณภาพมาช่วยตรวจสอบน้ำมันนั่นคือ “ปากกาวัดความชื้น” ซึ่งจะแสดงสีเขียว (คุณภาพดี) ไปจนถึงสีแดง (เสื่อมคุณภาพ) ทำให้ง่ายต่อการตรวจสอบ

ขั้นตอนการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเบรคมีให้เลือกตามความสะดวกของผู้ใช้รถ ซึ่งสามารถนำรถไปเปลี่ยนถ่ายตามอู่ซ่อมรถหรือศูนย์บริการรถยนต์ต่างๆ โดยปกติแล้วจะมีการเปลี่ยนถ่ายอยู่ 3 แบบคือ 1. เติมให้เติมเฉยๆ วิธีนี้เป็นวิธีที่ง่ายที่สุด เนื่องจากว่าเป็นการเติมของใหม่เข้าให้เต็มโดยที่ไม่นำน้ำมันเก่าออก

อาจจะลดประสิทธิภาพลงไปเกือบ 70% 2. การไล่ลมเบรค เป็นวิธีที่นิยมที่สุด แต่ก็เป็นวิธีที่มีข้อเสียมาก เพราะการไล่ลมเบรคจะต้องเหยียบเบรคย้ำหลายครั้งจนอาจจะเกิดอาการเบรคจม ซึ่งอันตรายต่อรถมากๆ 3. ใช้เครื่องเปลี่ยนถ่ายทั้งระบบ เป็นวิธีที่ได้ประสิทธิภาพมากที่สุดถึง 99.99% ข้อเสียคือ ในปัจจุบันมีศูนย์ที่บริการวิธีนี้น้อยมาก

น้ำมันเบรค

จะเห็นได้ว่าน้ำมันเบรคเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ เพราะมันหมายถึงชีวิตและความปลอดภัยของผู้ใช้รถ รวมไปถึงเพื่อนร่วมถนนของเรา แต่ถึงอย่างนั้นมันก็เป็นสิ่งที่ผู้ใช้รถ รวมทั้งช่างมักจะมองข้าม เนื่องจากว่าปัญหามันไม่ได้แสดงออกมาอย่างเห็นได้ชัดเจนเหมือนเช่นยางรถยนต์

และ ผ้าเบรกที่ผู้ใช้รถยนต์สามารถสัมผัสได้จากการใช้รถหรือ มีสัญญาณเตือนให้เราได้รู้ ดังนั้นต้องอาศัยการตรวจเช็ค สังเกตอย่างสม่ำเสมอเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาอันใหญ่หลวงตามมา เราจะได้สบายใจในการขับขี่รถยนต์อีกด้วย