มิจฉาชีพแกล้งล้มหน้ารถยนต์ กับวิธีรับมือที่ควรรู้ไว้

เราอาจเคยได้ยินในข่าวกันอยู่บ่อยครั้งว่ามีมิจฉาชีพกลุ่มหนึ่งมักจะชอบแกล้งล้มหน้ารถยนต์ และแสดงท่าทีว่าถูกรถยนต์คันนั้น ๆชน เพื่อเรียกร้องเอาค่าเสียหายหรือไม่ก็เพื่อต้องการให้บุคคลนั้น ๆลงมาจากรถยนต์เพื่อทำการปล้นชิงทรัพย์ และนี่ก็ไม่ใช่เหตุการณ์ที่ไกลตัวหากคุณก็เป็นบุคคลหนึ่งที่ใช้งานรถยนต์ ดังนั้นบทความเกี่ยวกับรถยนต์นี้จึงจะมาบอกวิธีการรับมือกับ มิจฉาชีพแกล้งล้มหน้ารถยนต์ ว่าคุณควรที่จะทำอย่างไร เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพเหล่านี้ได้บทความข่าวรถยนต์

            การรับมือกับ มิจฉาชีพแกล้งล้มหน้ารถยนต์ ที่บทความนี้จะมาแนะนำอันดับแรกคือ ให้คุณตั้งสติ และสังเกตสถานการณ์รอบข้างก่อน อย่าพึ่งรีบตัดสินใจลงจากรถยนต์ทันทีหากในตอนนั้นเป็นช่วงเวลากลางคืน เพราะมิจฉาชีพอาจหลอกให้คุณลงมาจากรถยนต์เพื่อทำการปล้นชิงทรัพย์ได้ แต่หากเป็นในช่วงเวลากลางวันให้คุณสังเกตว่ามีผู้คนในละแวกนั้นมากน้อยเพียงใด หากมีผู้คนมากหรือมีคนมามุงดูคุณค่อยตัดสินใจลงจากรถยนต์ และถามคนเหล่านั้นว่ามีใครเห็นเหตุการณ์ดังกล่าวบ้างหรือไม่ เพื่อที่จะได้มาเป็นพยานให้กับคุณว่าบุคคลนั้นเป็นมิจฉาชีพแกล้งล้มหน้ารถยนต์

            หากรถยนต์ของคุณมีกล้องหน้ารถยนต์จะเป็นประโยชน์กับคุณเป็นอย่างมาก เพราะคุณจะมีหลักฐานที่แน่ชัดว่าคุณไม่ได้ขับรถชนอย่างแน่นอน แต่หากคุณไม่มีกล้องหน้ารถยนต์ ก่อนที่คุณจะลงไปเจรจากับมิจฉาชีพให้คุณนำโทรศัพท์มือถือหรืออุปกรณ์ที่สามารถบันทึกวิดีโอได้ ทำการบันทึกวิดีโอตลอดการสนทนาระหว่างคุณกับมิจฉาชีพ เพื่อเป็นหลักฐานในการจับเท็จ และจะทำให้มิจฉาชีพเกิดความกังวลในการสนทนามากขึ้นอีกด้วย

มิจฉาชีพแกล้งล้มหน้ารถยนต์ ภัยอันตรายที่ผู้ขับขี่รถควรระวัง

            อีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญในการรับมือกับมิจฉาชีพที่มาแกล้งล้มหน้ารถยนต์ของคุณ ให้คุณโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทันทีเมื่อเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น นอกจากจะทำให้มิจฉาชีพกลัวจะถูกจับได้แล้ว ยังเป็นการแสดงความบริสุทธิ์ใจของคุณกับตำรวจอีกด้วย

            เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงให้คุณเล่าเหตุการณ์ให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจฟังอย่างละเอียด และสอบถามว่าพื้นที่ในบริเวณนั้นมีกล้องวงจรปิดที่จะสามารถมองเห็นเหตุการณ์ดังกล่าวได้หรือไม่ เพื่อหาหลักฐานพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของคุณ และเอาผิดกับมิจฉาชีพแกล้งล้มหน้ารถยนต์ แต่หากยังไม่สามารถจัดการสถานการณ์ดังกล่าวได้การโทรหาประกันรถยนต์ของคุณจะดีที่สุด เพื่อให้ประกันรถยนต์ที่มีความเชี่ยวชาญจัดการกับเหตุการณ์ดังกล่าว